简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดได้ส่งสัญญาณพร้อมหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อสูง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดได้ส่งสัญญาณพร้อมหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อสูง
• เงินดอลลาร์มีโอกาสรีบาวด์แข็งค่าขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาดหรือไม่ได้ชะลอลงชัดเจน ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มเชื่อว่าเฟดอาจคงดอกเบี้ยได้นาน อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงต่อได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้ หรือในกรณีที่ BOE ย้ำจุดยืนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) แข็งค่าขึ้น
• ส่วนค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways หลังเงินบาทแข็งค่าหลุดโซนแนวรับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจมีทิศทางไม่ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ผลการเลือกตั้งทั่วไปได้ ในเชิงเทคนิคัล เส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน (แถว 34.20-34.30 บาทต่อดอลลาร์) จะเป็นโซนแนวต้านสำคัญ
ไฮไลต์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้มีดังนี้
• ไฮไลท์สำคัญ อัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ รวมถึง การเจรจาขยายเพดานหนี้ (US Debt Ceiling) พร้อมรอลุ้นผลการประชุม BOE ส่วนในฝั่งไทย ตลาดจะรอลุ้นผลการเลือกตั้งใหญ่
1. ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาใกล้ชิด คือ อัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนเมษายน โดยตลาดมองว่า โมเมนตัมของอัตราเงินเฟ้อ CPI และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจยังไม่ได้ชะลอตัวลงชัดเจน อย่างที่ตลาดและเฟดคาดหวัง (CPI +0.4%m/m, Core CPI +0.3%m/m) ทำให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อาจยังคงอยู่ในระดับสูงราว 5.00% และ 5.50% ตามลำดับ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสที่เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้บ้าง แต่เรามองว่า เฟดอาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อ (Higher for Longer) เนื่อจากแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มได้รับผลกระทบและชะลอลงจากภาวะการปล่อยสินเชื่อที่ตึงตัวมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม ผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ (Senior Loan Officer Survey) โดยเฟด ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า ผลสำรวจดังกล่าวอาจชี้ว่า การปล่อยสินเชื่อจะตึงตัวมากขึ้นชัดเจน ตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดและปัญหาสภาพคล่องในระบบธนาคารของสหรัฐฯ โดยธนาคารส่วนใหญ่อาจคุมเข้มมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความต้องการสินเชื่อก็อาจปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด หลังข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ล่าสุดยังมีความแข็งแกร่งและออกมาดีกว่าคาด และอีกประเด็นที่น่าสนใจและอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน คือ ความเสี่ยงการเมืองสหรัฐฯ จากประเด็นเพดานหนี้ (Debt Ceiling) ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาการเจรจาต่อรองเพื่อขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ และสภาคองเกรส โดยจากสถิติตั้งแต่ปี 2000 พบว่า ในช่วงตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้ ผู้เล่นในตลาดมักเลือกถือ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่เงินดอลลาร์มักจะอ่อนค่าลงจากความกังวลว่า สหรัฐฯ อาจเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของเงินดอลลาร์ในฐานะ Reserve Currency
2. ฝั่งยุโรป – เราประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและไม่มีสัญญาณชะลอลงชัดเจน (อัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนเมษายน อาจอยู่ที่ระดับ 10% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI จะอยู่ที่ระดับ 6%) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% สู่ระดับ 4.50% นอกจากนี้ เรามองว่า BOE อาจยังคงส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อจนกว่าจะคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ ซึ่ง BOE จะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด (Data Dependent) ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดมองว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจขยายตัวเพียง +0.2%y/y ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการประท้วงหยุดงานในช่วงเดือนมีนาคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงิน ECB
3. ฝั่งเอเชีย – ตลาดคาดว่า ยอดการส่งออกของจีนในเดือนเมษายนอาจโตราว +10%y/y ซึ่งอาจไม่ได้สะท้อนความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากฐานของยอดการส่งออกในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับที่ต่ำ ตามภาวะ Lockdown ของเมืองใหญ่ๆ อย่าง เซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ดี ยอดการนำเข้าอาจหดตัว -0.3%y/y ซึ่งส่วนหนึ่งอาจสะท้อนว่าความต้องการสินค้าในประเทศอาจยังฟื้นตัวได้ไม่ดีมาก ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ตลาดจะรอจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ล่าสุด ซึ่ง BOJ ยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย แม้ว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้า 2% ไปมาก
4. ฝั่งไทย – เราประเมินว่า แนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจที่ได้แรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวอาจช่วยหนุนให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 54.8 จุด อย่างไรก็ดี ปัญหาค่าครองชีพสูง อาทิ ค่าไฟฟ้า จะเป็นปัจจัยที่อาจกดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินไทยในระยะสั้นได้
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
โบรกเกอร์ Infinitas Global Limited (INF) มีพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกง ได้แก่ การบล็อกการถอนเงิน ใช้มิจฉาชีพชักชวนลงทุน และใช้บัญชีปลอม ผู้ใช้งานหลายรายสูญเสียเงินตั้งแต่หลักแสนถึงล้านบาท นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการเปิดบัญชีหรือทำธุรกรรมกับโบรกเกอร์นี้เพื่อป้องกันความเสียหายทางการเงิน
Indicator Trend คือเครื่องมือวิเคราะห์ทิศทางราคาในตลาด Forex ว่ากำลังอยู่ในขาขึ้นหรือขาลง เครื่องมือยอดนิยม เช่น Moving Average, MACD และ Parabolic SAR ช่วยให้มือใหม่หาจังหวะเข้า-ออกตลาดได้แม่นขึ้น ลดความสับสนจากกราฟดิบ และสร้างวินัยในการเทรด ควรใช้ควบคู่กับการตั้ง Stop Loss/Take Profit และการติดตามข่าว เพื่อปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์
การลงทุน Forex เริ่มต้นได้ 2 ทางหลัก คือ เทรดกับธนาคาร และเทรดกับโบรกเกอร์ ธนาคารมีความปลอดภัยสูงแต่ใช้เงินทุนมาก ส่วนโบรกเกอร์ยืดหยุ่นกว่า เริ่มด้วยทุนน้อย มีคู่เงินและเครื่องมือหลากหลาย แต่ต้องเลือกอย่างรอบคอบเพราะความน่าเชื่อถือแตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัย ควรตรวจสอบข้อมูลและใบอนุญาตโบรกเกอร์ผ่าน WikiFX ก่อนตัดสินใจลงทุน
FXTRADING.com
Saxo
EC Markets
GTCFX
FBS
OANDA
FXTRADING.com
Saxo
EC Markets
GTCFX
FBS
OANDA
FXTRADING.com
Saxo
EC Markets
GTCFX
FBS
OANDA
FXTRADING.com
Saxo
EC Markets
GTCFX
FBS
OANDA